Hot data today
กระบองเพชรต้องรดน้ำไหม
กระบองเพชรแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการน้ำที่มากน้อยไม่เท่ากันในที่นี้แนะนำใช้กับโอพันเทียและไม้ลำ
กระบองเพชรเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากในทะเลทราย สามารถยืนต้นอยู่ได้แม้จะเป็นที่แห้งแล้งกันดารโดยไม่ตาย โดยกระบองเพชรจะเก็บน้ำไว้ในลำต้นเป็นจำนวนมาก ถึงแม้กระบองเพชรจะเป็นไม้อวบน้ำก็จริง แต่ก็ยังต้องการน้ำเพื่อไปเลี้ยงตัวเอง กระบองเพชรเป็นพืช CAM มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำสูง (Water use fficiency WUE) ดังนั้นสามารถอยู่ได้แม้ในพื้นที่เก่งแรงที่มีปริมาณน้ำฝนเพียง 200-300 มม ต่อปี หรือพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 400-600 มม ต่ออปีแต่มีอุณหภูมิสูงและช่วงเวลาแล้งยาวนาน ซึ่งหมายความว่าหากเลี้ยงกลางแจ้งให้ได้รับน้ำฝนในบ้านเรา เมื่อปลูกติดแข็งแรงแล้วยังสามารถอยู่ได้แม้ไม่ให้น้ำ แต่เพื่อให้ไม้เติบโตอย่างต่อเนื่องและผิวไม้สวยสมบูรณ์การให้น้ำบ้างไม่มากเกินไปก็ได้เช่นกัน
วิธีเช็คดินว่าแห้งหรือไม่ง่ายๆ สามารถทำได้ 3 วิธี
1. นำไม้จิ้มฟัน จิ้มลงไปในดิน ก่อนที่จะรดน้ำ หากมีดินที่ชื้นติดขึ้นมานั้น แสดงว่า ดินยังมีความชื้นอยู่สูง ใครสะดวกใช้มือก็ใช้ได้นะคะจะชัวร์กว่า
2. ยกน้ำหนักของกระถาง เทียบกันระหว่าง ก่อน และหลังจากรดน้ำ เพื่อจำน้ำหนัก ถ้ายกแล้วเบากว่าเดิมมาก แสดงว่าดินแห้งแล้ว
3. ใช้หินโรย เป็น ดินญี่ปุ่นอคาดามะ ซึ่งสีของดินจะเปลี่ยนเป็นเข้มเมื่อมีความชื้นเยอะ ทำให้สังเกตได้ง่าย ว่าสีอ่อน คือ ดินแห้ง
ทั้งหมดนี้ต้องลองทำดูทำบ่อยจะกลายเป็นประสบการณ์ หลังจากนั้นก็ลองนับระยะดูว่า สถานที่หรือสถาพแวดล้อมตรงที่เราปลูก ดินแห้งเร็วขนาดไหน เพียงเท่านี้เราก็สามารถกะวันรดน้ำได้คร่าวๆ อย่างไรเสียก็ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศและอุณหภูมิด้วยค่ะ
แสง : ต้องการแสงค่อนข้างมากจนถึงแสงแดดจัดกลางแจ้ง
น้ำ :หากปลูกในกระถางสามารถให้น้ำเจ็ดถึง 10 วัน/ครั้ง หากปลูกลงดิน ปลูกใหม่ให้น้ำเหมือนในกระถางหลังจากที่ต้นแข็งแรงดีแล้วเนื่องจากไม้ประเภทนี้มีรากที่สามารถหยั่งลึกได้เกิน 1.5 เมตร สามารถปล่อยให้ได้รับน้ำตามธรรมชาติก็พอหรือให้น้ำไม่บ่อยกว่า 20 วัน/ครั้ง
ดิน : ดินร่วนปนทราย ความชื้นปานกลาง
ปุ๋ย : ควรให้ปุ๋ยที่มีทั้งธาตุ NPK และธาตุเสริม ไม่ให้ปุ๋ยที่มีในโตเจนสูงมากเกินไปจะทหให้เปราะหักง่าย สามารถใช้ได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีตามสะดวก ประมาณ 2 เดือนครั้ง
การขยายพันธุ์ : การใช้เมล็ด และการปักชำ การปักชำเป็นวิธีที่นิยมและได้ผลดี
ศัตรูพืช : หนอนหอยทากแมลงปากดูดหนูเพลียเชื้อรา ทั้งนี้การดูแลสิ่งเหล่านี้มีทางวิธีการแบบอินทรีย์และแบบใช้สารเคมีแล้วแต่ความสะดวก