ก่อนจะพูดถึงกระบองเพชรกินได้ในตระกูลโอพันเทีย ต้องมาคุยกันก่อนว่าโอพันเทียคืออะไร
โอพันเทียคือกระบองเพชรกลุ่มที่มีกิ่งแบนซึ่งกิ่งนี้ถูกเรียกทับศัพท์(แปลว่าเรียกเหมือนกัน)กับต่างประเทศว่า “แพด ออกเสียงแผ็ด” มาจากคำว่า “PAD” แปลว่าแผ่นนั่นเอง มีทั้งแพดทรงกลม ทรงรี หรือบางแพดมีความหยักโค้งในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะทางกายภาพของแต่ละสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ที่แพดหรือในทางเทคนิคคือกิ่งนี้จะมีตาหนามซึ่งใบที่แท้จริงของเขาลดรูปลงไปจนมีขนาดเล็กขึ้นอยู่ด้านนอกของตาหนาม การลดรูปนี้เพื่อลดการคายน้ำซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของกระบองเพชรเพื่อความอยู่รอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์
เมื่อแพดเริ่มแก่ใบเล็กๆเหล่านี้ก็จะหลุดร่วงไปเหลือไว้เพียงหนามที่ตาหนาม โดยปกติหากเป็นกลุ่มสายพันธุ์หนามน้อยถ้าอากาศไม่ร้อนและแล้งจัดมากนักหนามเล็กๆที่ตาหนามเหล่านี้ก็จะค่อยๆหลุดร่วงไปตามอายุเช่นกัน แต่ถ้าอากาศร้อนแล้งแสงแดดจัดกระบองเพชรเกือบทุกสายพันธุ์รวมทั้งโอพันเทียด้วยก็มักมีหนามโหดยาวแทงขึ้นมาได้ประปราย ส่วนหนามขนก็จะฟูกว่าปกติ ทั้งนี้ความแตกต่างตามธรรมชาติแบบนี้ไม่นับเป็นความแตกต่างทางสายพันธุ์แต่เป็นเพียงลักษณะที่แตกต่างออกไปตามสภาพแวดล้อมเท่านั้น
โดยปกติกระบองเพชรในตระกูลโอพันเทียสามารถรับประทานได้ทุกๆสายพันธุ์
“ยกเว้น” สายพันธุ์ที่มีหนามขนคันซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือผื่นพิษกับเนื้อเยื่อในร่างกาย เช่นกลุ่มโอพันเทียไมโครเดซิส Opuntia Microdasys หรือที่มักเรียกว่าหูกระต่ายมีกระจุกหนามเป็นตุ่มกลมๆหนามฟูขนาดเล็กมาก มักปลิวโดนผิวทำให้เกิดอาการแพ้ผื่นคันได้ง่าย หรือชนิดหนามที่ยาวโหดมากตั้งแต่ยังเป็นแพดอ่อนและกำจัดได้ยากหรือสายพันธุ์ที่แพดอ่อนมีความบางมีเนื้อน้อยแต่กลับมีหนามเล็กปักแน่นดึงออกยากกว่าใคร เช่น เสมาเป็นต้น
ข้อมูลคร่าวๆของเสมาในบทความนี้ขอแจ้งเพียงว่า หนามที่แพดอ่อนของเสมาแม้จะมีขนาดเล็กแต่มีจำนวนมาก และค่อนข้างฟูปลิวกระจายไปสร้างความรำคาญและกำจัดได้ยากกว่ากระบองเพชรโอพันเทียในกลุ่มที่นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารมาก นอกจากนี้เสมายังติดดอกง่าย ติดผลยาก ผลขนาดค่อนข้างเล็กไม่ดก รสชาติไม่โดดเด่น และหนามที่ผลของเสมาก็โหดดึงออกยากและระคายเคืองมากพอๆกับหนามที่แพดอ่อนของเขาเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแม้หลายท่านอาจเรียกกระบองเพชรในกลุ่มโอพันเทียทั้งหมดว่าเสมา ทว่าแท้จริงแล้ว เสมาเป็นชื่อของกระบองเพชรกลุ่มโอพันเทียสายพันธุ์หนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Opuntia cochenillifera เนื่องจากเสมาเป็นกระบองเพชรกลุ่มโอพันเทียสายพันธุ์แรกๆที่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน ทั้งการแยกความแตกต่างของโอพันเทียแต่ละสายพันธุ์สำหรับบุคคลทั่วไปมักเป็นไปได้ยากเพราะมักรู้สึกอยู่เสมอว่าล้วนมีลักษณะที่เหมือนกันซึ่งการแยกความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ต่างๆนี้ต้องใช้ทั้งประสบการณ์และเวลา ทั้งยังต้องให้ความสนใจเขามากพอสมควร
จึงเป็นปกติที่จะพบเจอคนส่วนใหญ่เข้าใจว่ากระบองเพชรในกลุ่มโอพันเทียกินได้หลายสายพันธ์ที่มีขายอยู่ทั่วไปในต่างประเทศก็คือเสมาแม้ว่านี่จะเป็นความเข้าใจผิดเรื่องของสายพันธุ์โดยสิ้นเชิงก็ตามแต่ความเข้าใจผิดนี้ก็ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน ใครเห็นเหมือนกันบ้าง?
กระบองเพชรกินได้ในกลุ่มโอพันเทียมีทั่วโลกนับร้อยสายพันธุ์ แม้ว่าส่วนใหญ่เอกสารมักกล่าวถึงหรือตั้งชื่อเรื่องว่าโอพันเทียฟิคัสอินดิก้า Opuntia Ficus Indica แต่เนื้อหาด้านในมักไม่ได้หมายความถึงสายพันธุ์นี้สายพันธุ์เดียวแต่อย่างใด หลายครั้งจะพบว่าในเอกสารจะแจกแจง หรือพูดถึงสายพันธุ์อื่นอยู่บ่อยๆแม้มักจะเรียกชื่อสายพันธุ์นี้เป็นหลักจนแทบจะเป็นชื่อสามัญของกระบองเพชรกินได้ไปแล้วก็ตาม
การทำตลาดแต่ละสายพันธุ์ก็แตกต่างกันไปตามพื้นที่และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีทั้งปลูกขายเป็น ผัก ผลไม้ ไม้ประดับ การประกอบอาหาร การถนอมอาหาร การแปลรูป การสกัดส่วนผสมมาทำอาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง อาหารสัตว์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมพลังงาน
จะเห็นว่าตลาดที่รองรับกระบองเพชรกินได้ในต่างประเทศกว้างกว่ากว้าง องค์ความรู้ก็มีพอควร
ส่วนใครจะได้ประโยชน์จากสิ่งนี้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเร็ว ความสามารถในการมองเห็น และการคว้าโอกาสแล้ว
ให้ไวนะคะมาคว้าโอกาสดีๆนี้ด้วยกัน
ขอบคุณที่ติดตาม น้ำเพชรสวนกระบองเพชรกินได้